รู้ไว้ก่อนเช่า พาส่อง ระบบความปลอดภัยใน 5 ยี่ห้อรถหรู

Prime Luxury Cars Rental  > Uncategorized >  รู้ไว้ก่อนเช่า พาส่อง ระบบความปลอดภัยใน 5 ยี่ห้อรถหรู

รู้ไว้ก่อนเช่า พาส่อง ระบบความปลอดภัยใน 5 ยี่ห้อรถหรู

0 Comments
ระบบความปลอดภัยใน 5 ยี่ห้อรถหรู

 

รู้ไว้ก่อนเช่า พาส่อง ระบบความปลอดภัยใน 5 ยี่ห้อรถหรู

ปฏิเสธไม่ได้ว่าระบบความปลอดภัยกับรถยนต์ เป็นสิ่งที่ต้องอยู่คู่กัน เวลาเลือกรถสักคันมาขับ นอกเหนือจาก สมรรถนะ ความสวยงาม และ ฟังก์ชันการใช้งานแล้ว ระบบความปลอดภัยเป็นอีกหนึ่งปัจจัยที่ต้องนำมาพิจารณา และเมื่อขึ้นชื่อว่า ‘รถหรู’ แน่นอนว่าระบบความปลอดภัยยิ่งต้องเหนือขั้นไปกว่าเดิม โดยวันนี้เราจะพามาส่องระบบความปลอดภัยเด่น ๆ ใน 5 ยี่ห้อรถหรู กันครับ

1. ระบบความปลอดภัยใน ยี่ห้อรถหรู Mercedes-Benz 

รถ Mercedes-Benz S560e AMG Premium

 

สำหรับระบบความปลอดภัยของรถ Mercedes-Benz เรียกได้ว่าเขาเอาใจใส่ในด้านนี้แบบสุด ๆ เพราะมีทั้งความรอบด้าน ล้ำสมัย ตอบโจทย์ทุกความต้องการของผู้ใช้งาน เริ่มตั้งแต่

 ระบบแสงสว่างและการมองเห็น

ระบบแสงสว่างและการมองเห็นจะช่วยเพิ่มวิสัยทัศน์ในการขับขี่ในสถานการณ์ต่าง ๆ ได้ดี ยิ่งขึ้น รวมถึง ช่วยลดความเสี่ยงที่จะเกิดอุบัติเหตุบนท้องถนนได้

ในรถ Mercedes-Benz หลาย ๆ รุ่นจะมาพร้อมกับ ระบบไฟ LED อัจฉริยะ (LED Intelligent Light System) ซึ่งถือว่าล้ำมาก เพราะว่าสามารถปรับลำแสงไปตามสถานการณ์การขับขี่ได้โดยอัตโนมัติ ทั้งการขับขี่ในชนบท การขับขี่บนทางหลวง การขับขี่บนถนนที่มีหมอก ไปจนถึง ฟังก์ชันการปรับไฟหน้าตามการเลี้ยวของพวงมาลัย และการเพิ่มความส่องสว่างขณะเลี้ยวโค้ง

นอกจากนี้ ในรถเบนซ์ทุกคันของเรายังมีไฟหน้าแบบ Multibeam LED 84 ดวง ที่ประกอบด้วยฟังก์ชันการตรวจจับทางโค้ง และ เพิ่มแสงไฟบริเวณจุดอับสายตา ตลอดจนมี ระบบช่วยปรับไฟสูงอัตโนมัติ (Adaptive Highbeam Assist) ที่สามารถเปิดใช้งานไฟสูงทันทีที่ตรวจจับได้ว่าไม่มีรถยนต์วิ่งอยู่ด้านหน้าหรือส่วนทางมา ทำให้เวลากลางคืนคุณสามารถมองเห็นได้อย่างชัดเจน และไม่รบกวนผู้ใช้ถนนคนอื่น หรือถ้าหากมีรถสวนทางมาระหว่างนั้น ระบบก็จะปรับเป็นไฟต่ำเองโดยที่คุณไม่ต้องกดสวิตช์เองเลย

ระบบช่วยในการขับขี่และความปลอดภัย

Mercedes-Benz S560e ด้านหลัง

ไม่ว่าจะเป็น ระบบ Active Lane Keeping Assist ที่ช่วยดึงรถกลับเข้าช่องทางเดิมเมื่อต้องการจะเปลี่ยนเลน แต่มีรถคันอื่นวิ่งเข้ามา แล้วมีความเสี่ยงที่จะชน, ระบบ Active Distance Assist DISTRONIC ควบคุมระยะห่างจากรถที่อยู่ด้านหน้า ตลอดจน ระบบ Active Blind Spot Assist คอยตรวจรถคันอื่นที่เข้าใกล้ในจุดอับสายตา และ ระบบช่วยควบคุมพวงมาลัยเพื่อหลบหลีกสิ่งกีดขวาง เป็นต้น

ทางด้านความปลอดภัยเอง นอกเหนือจากถุงลมนิรภัยตามมาตรฐานแล้ว ยังมี ระบบช่วยเบรกอัตโนมัติ ที่จะส่งสัญญาณเตือนให้คุณเบรกรถได้ทัน พร้อมเพิ่มกำลังการเบรกให้เหมาะสม รวมถึง ระบบช่วยจำกัดความเร็ว และไฮไลต์อย่าง ระบบ PRE-SAFE® ที่ถูกสร้างขึ้นเพื่อลดรุนแรงที่จะเกิดขึ้นจากอุบัติเหตุ 

สำหรับ ระบบ PRE-SAFE® วิธีทำงานของมันก็คือ ระบบจะประเมินความเสี่ยงด้วยเรดาห์ตรวจจับความเร็วของรถรอบด้าน หากพบมีความเร็วที่สูงจนเสี่ยงต่อการเกิดอุบัติเหตุ ระบบก็จะสั่งให้ไฟฉุกเฉินทำงาน และสั่งการระบบเบรกให้ล็อกล้ออยู่กับที่ ปรับเข็มขัดนิรภัยและพนักพิงคอให้กระชับขึ้น เพื่อลดอาการบาดเจ็บหากเกิดเหตุขึ้นจริง

นอกจากนี้ ระบบยังมีการสร้างเสียงรบกวนขึ้นเพื่อกระตุ้นการตอบสนองในป้องกันตนเอง พร้อม ลดการสั่นสะเทือนของเสียงที่เป็นอันตรายต่อหูชั้นใน อันเกิดมาจากอุบัติเหตุ เรียกได้ว่าใส่ใจทุกความปลอดภัยของผู้ขับขี่เลยทีเดียว

2. ระบบความปลอดภัยใน ยี่ห้อรถหรู Audi 

ยี่ห้อรถหรู Audi TT SLine 45TFSI Quarttro

สำหรับ ยี่ห้อรถหรู ที่ขึ้นชื่อในเรื่องความขับสนุก ให้อารมณ์สปอร์ตอย่าง Audi เขาก็ได้มีมาตรฐานความปลอดภัยหลากหลายด้วยกัน

ฟังก์ชันแรกที่พามารู้จักกันคือฟังก์ชัน Audi Pre Sense 360˚ โดยหลักการทำงานของมันจะคล้ายคลึงกับ PRE-SAFE® ใน Mercedes-Benz คือ จะมีเรดาห์คอยตรวจจับอันตรายรอบด้านที่ก่อให้เกิดความเสี่ยงที่รถจะถูกชน หากตรวจพบ จากนั้นก็จะสั่งการให้ระบบความปลอดภัยอื่น ๆ ทำงาน อย่างเช่น ไฟฉุกเฉิน และ เบรก  

นอกจากนี้ หากระบบตรวจพบว่ารถเกิดการลื่นไถลหรือมีการเบรกอย่างหนัก ระบบก็จะกระชับเข็มขัดของผู้ขับขี่และผู้โดยสารให้แน่นขึ้น เพื่อลดการเคลื่อนที่ และถ้าหากเป็นรถเปิดประทุน หลังคาก็จะถูกเลื่อนปิดโดยอัตโนมัติทันที  

ทั้งนี้นอกเหนือจาก Pre Sense 360˚ แล้ว Audi ยังมีระบบด้านความปลอดภัยที่น่าสนใจอีกหลายอย่าง เช่น 

ระบบช่วยหลีกเลี่ยงการชน ซึ่งจะใช้ข้อมูลจากเรดาร์สองตัวและกล้องหน้า ในการคำนวณเส้นทางหลบหลีกสิ่งกีดขวางที่เหมาะสมให้แก่ผู้ขับขี่ ระบบเบรก Multicollision ที่จะช่วยคำนวนหาความน่าจะเป็นในการชน ความรุนแรงของการชน โดยคอมพิวเตอร์ พร้อมสั่งการ เบรกอัตโนมัติให้ทำงาน เพื่อลดความรุนแรง และ ระบบ Emergency Assist ที่จะเข้าควบคุมรถและเบรกอัตโนมัติ เมื่อไม่มีการตอบสนองจากคนขับ 

Audi TT SLine 45TFSI Quarttro

 

นอกจากฟังก์ชันด้านความปลอดภัยที่ได้ยกตัวอย่างกันไปแล้ว Audi ยังมีฟังก์ชันช่วยในการขับขี่ที่เหมาะสมต่อการใช้งานในเมืองที่มีการจราจรหนาแน่น ทั้ง ระบบช่วยเลี้ยว, ระบบช่วยเปลี่ยนเลน, ฟังก์ชันควบคุมความเร็วอัตโนมัติ, ฟังก์ชันช่วยตรวจจับขอบทาง และอื่น ๆ อีกมากมาย ซึ่งระบบเหล่านี้จะเป็นการใช้ประโยชน์เรดาห์และกล้อง ตรวจหารถและสิ่งกีดขวาง ที่จะเข้ามาเป็นอันตราย ทำให้เราสามารถขับขี่ได้ปลอดภัยมากยิ่งขึ้น 

3. ระบบความปลอดภัยใน ยี่ห้อรถหรู Porsche 

ยี่ห้อรถหรู Porsche 911 on street

ทางด้าน Porsche เอง มีความเชื่อว่า ความหรูหราคือการที่ผู้ขับขี่สามารถจดจ่ออยู่กับสิ่งที่อยู่ตรงหน้าได้โดยไม่ต้องละสายตา เขาจึงได้พัฒนาระบบช่วยขับขี่และความปลอดภัยที่มุ่งเน้นให้ผู้ขับขี่ได้เพลิดเพลินอยู่กับช่วงเวลาตรงหน้าได้อย่างจริงแท้ โดยเราจะขอหยิบยกฟังก์ชันเด่น ๆ มาให้ทำความรู้จักกันครับ 

เริ่มต้นด้วย Porsche InnoDrive สำหรับฟังก์ชันนี้ Porsche จะใช้ข้อมูลจากระบบนำทางที่มีความแม่นยำสูง มาคำนวณเส้นทางของเรา ว่ามีสภาพถนนเป็นอย่างไร จากนั้นก่อนที่จะถึง ระบบก็จะจัดการปรับเกียร์และความเร็วให้เหมาะสม 

นอกจากนี้ Porsche ยังมาพร้อมกับ Adaptive Cruise Control ที่จะช่วยปรับระดับความเร็วของรถโดยอัตโนมัติ ทั้งนี้ การปรับระดับความเร็วนั้นขึ้นอยู่กับระยะห่างจากรถยนต์ด้านหน้า ตัวอย่างเช่น ถ้ารถคันหน้าเราขับช้ากว่าเรา ระบบก็จะค่อย ๆ ผ่อนความเร็วลง และ กลับมาเร่งความเร็วในระดับเดิมอีกครั้งเมื่อถนนด้านหน้าเปิดโล่ง

ส่วนฟังก์ชันต่อมาที่เราจะพูดถึง ได้แก่ Lane Keeping Assist พร้อม Traffic Sign Recognition ซึ่งฟังก์ชันแรกจะช่วยรักษารถของเราให้คงอยู่ตามเลนที่เหมาะสม ขณะที่ฟังก์ชันที่สองจะคอยตรวจจับป้ายจราจรต่าง ๆ แล้วแจ้งเตือนให้เราทราบล่วงหน้า 

มาถึงด้าน ระบบควบคุมเสถียรภาพตัวรถ หรือ Porsche Dynamic Chassis Control (PDCC) กันบ้าง โดยระบบนี้ เป็นระบบที่ช่วยป้องกันการพลิกคว่ำ ลดการโคลงขณะเข้าโค้ง การเปลี่ยนเลนแบบกระทันหัน ตลอดจน ลดอาการส่ายเมื่อขับบนเส้นทางที่ขรุขระ ซึ่งเมื่อประกอบกับ ระบบบังคับเลี้ยวล้อคู่หลัง ทำให้สามารถบังคับทิศทางการเลี้ยวได้แม่นยำ และ คล่องตัว

ต่อกันที่ฟังก์ชันถัดมา เป็นฟังก์ชันที่เปิดตัวพร้อมกับ Porsche 911 โมเดลใหม่ล่าสุด ในรหัส 992 Carrera S ซึ่งฟังก์ชันนี้มีชื่อว่า Porsche Wet-Mode โดยจะทำหน้าที่ตรวจจับความลื่นของถนน โดยวัดจากปริมาณละอองน้ำที่ถูกสาดขึ้นบริเวณซุ้มล้อหน้า เมื่อตรวจพบถนนที่ลื่น ก็จะแจ้งเตือนไปยังผู้ขับขี่ พร้อมสั่งการไปยังระบบควบคุมการทรงตัว ให้เพิ่มการตอบสนองที่รวดเร็วกว่าปกตินั่นเอง  

แล้วก็ปิดท้ายระบบช่วยขับขี่ของ Porsche กันด้วยฟังก์ชัน Night Vision Assist ที่หลายคนคงคุ้นเคยกันดีอยู่แล้ว โดยเจ้าฟังก์ชันตัวนี้จะใช้กล้องอินฟาเรดในการตรวจจับสิ่งกีดขวาง แล้วแจ้งเตือนมายังคนขับ ก่อนที่ไฟหน้าเราส่องถึง  

4. ระบบความปลอดภัยใน ยี่ห้อรถหรู BMW

ยี่ห้อรถหรู BMW 220i gran coupe

 

กระโดดมาที่ระบบความปลอดภัยจากค่าย BMW กันบ้าง นอกเหนือจากระบบช่วยขับขี่หลัก ๆ ตามมาตรฐาน อย่าง ระบบควบคุมความเร็วอัตโนมัติ, ระบบจดจำป้ายจราจร หรือแม้แต่ ระบบไฟสูงอัตโนมัติแล้ว BMW ยังมีอีกหลายระบบความปลอดภัย ดังนี้ 

หากเกิดเหตุการณ์ที่ไม่คาดฝันขึ้น แล้วคุณต้องการความช่วยเหลืออย่างเร่งด่วน คุณสามารถ เรียน BMW Assist ได้โดยกดปุ่ม SOS ซึ่งทันทีที่กดปุ่มระบบจะค้นหาตำแหน่งรถของเรา หลังจากนั้นก็จะส่งหน่วยช่วยเหลือไปหาทันที  

แล้วถ้ามีการชนเกิดขึ้น BMW ก็มีนวัตกรรมความปลอดภัยระดับสูงที่จะตอบสนองต่อการเกิดการชนภายในเสี้ยววินาที โดยจะมีเซ็นเซอร์ตรวจสอบความรุนแรงของอุบัติเหตุ เพื่อระบุตำแหน่งของผู้โดยสาร ให้สามารถปรับใช้ถุงลมนิรภัยในแต่ระดับได้อย่างเหมาะสม ตลอดจนสั่งการให้ พนักพิง และ เข็มขัดนิรภัย ปรับกระชับอัตโนมัติเมื่อเกิดการชน แล้วยังมีระบบช่วยหยุดการทำงานของระบบเชื้อเพลิงและแบตเตอรี่ โดยอัตโนมัติ เพื่อป้องกันไฟไหม้อีกด้วย 

นอกจากนี้ ระบบพื้นฐานอื่น ๆ ก็มีมาให้พร้อม ทั้งระบบ Brake Assist ระบบช่วยเบรกอัตโนมัติ หากตรวจสอบพบว่ามีความเสี่ยงที่จะเกิดการชนบริเวณด้านหน้าของรถ ระบบ Lane Keeping Assist ที่จะช่วยประคองพวงมาลัย ให้อยู่ในเลนเสมอ รวมทั้ง Blind Spot Assist ที่จะแจ้งเตือนขึ้นเมื่อมีรถคันอื่นแซงขึ้นมาเวลาเปลี่ยนเลน หรือมีรถในมุมอับที่กระจกมองข้าง 

หรือถ้าคุณลืมกุญแจรถ BMW ก็มีระบบรองรับสามารถใช้สมาร์ทโฟน เปิดล็อก-ล็อก รวมถึงสตาร์ทเครื่องยนต์ได้ โดยไม่ต้องใช้กุญแจ ซึ่งฟังก์ชันเหล่าก็จะเห็นได้ใน BMW หลายรุ่น รวมทั้ง 330e M Sport G20 ด้วย

5. ระบบความปลอดภัยใน ยี่หอรถหรู Ferrari  

ยี่ห้อรถหรู Ferrari Portofino Side

เริ่มกันที่ ระบบ Anti Lock Braking System (ABS) หรือ ระบบป้องกันเบรกล็อค โดยระบบนี้เป็นอุปกรณ์พื้นฐาน ทำงานร่วมกับ BA (Brake Assist) ช่วยเพิ่มแรงเบรกเมื่อต้องเหยียบเบรกกระทันหันเพื่อไม่ให้ผู้ขับขี่เสียการควบคุมทิศทางและความเร็วของรถ  

และที่สำคัญ จานเบรกของ Ferrari ทุกรุ่น รวมทั้ง Portofino, 488 Spider ของเรายังเป็น Carbon Ceramic Brakes ขนาดใหญ่ ให้แรงเบรกที่มากกว่า แถมยังทนความร้อนสูงกว่าจานเบรกทั่วไป (แค่เฉพาะชุดเบรกอย่างเดียวก็มีราคาเกินล้านบาทแล้วละครับ !!!!) 

มากไปกว่านั้น Roll bars ก็เป็นอีกหนึ่งอย่างที่ถูกติดตั้งมากับรถ Ferrari โดย Roll bars นั้นเป็นอุปกรณ์ความปลอดภัยของรถแข่ง มีไว้เพื่อเสริมความแข็งแรงของห้องโดยสาร ป้องกันการบาดเจ็บของผู้ขับขี่เมื่อรถเกิดการพลิกคว่ำ ยังไม่พอ เขายังมีที่ดับเพลิงใส่มากับรถให้ด้วย เพราะกำลังเครื่องยนต์ก็ไม่ใช่เบา ปลอดภัยไว้ก่อนดีกว่า  

Ferrari Portofino on street

 

นอกจากระบบความปลอดภัยในข้างต้น Ferrari ยังมีระบบความปลอดภัยพื้นฐานอื่น ๆ เช่นกัน ทั้ง เบรกฉุกเฉินอัตโนมัติ พร้อมระบบตรวจจับคนข้ามถนน, ระบบแจ้งเตือนเมื่อขับออกนอกเลน, ระบบควบคุมความเร็วอัตโนมัติ และ ไฟหน้าแบบ Adaptive Headlights ที่ปรับตาม ความเร็วและพวงมาลัย เป็นต้น 

ทั้งนี้ นอกเหนือจากระบบความปลอดภัยแล้ว ระบบควบคุมการทรงตัว การออกแบบตัวรถ ไปจนถึง วัสดุที่ใช้ ต่างก็เกี่ยวข้องกับความปลอดภัยทั้งสิ้น ดังนั้น เวลาเลือกรถก็ให้พิจารณาทุกองค์ประกอบร่วมกันด้วย 

จบไปแล้วสำหรับระบบความปลอดภัยใน 5 ยี่ห้อรถหรู เป็นอย่างไรกันบ้างครับ ล้ำสมัยสมกับที่เป็นรถหรูแบรนด์ดังหรือเปล่า อย่างไรก็ตาม เอาเป็นว่าระบบความปลอดภัยเหล่านี้ มีเอาไว้เพื่อความอุ่นใจ แต่ไม่ต้องใช้จะดีที่สุดครับ 

เลือกรถที่ถูกใจได้แล้ว เช็กเรื่องความปลอดภัยเรียบร้อยแล้ว หากใครสนใจเช่ารถหรูแล้วละก็ ติดต่อมาได้เลยที่ 081-954-2451 หรือ Line ID: @primecarsrental 

Leave a Reply

Your email address will not be published. Required fields are marked *